เพื่อปลุกขวัญให้กำลังใจแก่นักกีฬาในการโค่นทีมลัตเวีย นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม จึงได้ประกาศอัดฉีดให้กับนักกีฬา ทีมเดวิสคัพไทยเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท โดยที่ “กษิดิศ สำเร็จ” ได้ประเดิมหวด ประเภทเดี่ยวสลับมือ คู่แรก
วันที่ 3 มีนาคม 2565 บิ๊กสุชัย นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เป็นประธานในพิธีการจับสลากประกบคู่ ในการแข่งขันกีฬาเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย ในรายการ “เดวิสคัพ บาย ราคูเท็น 2022” เวิลด์กรุ๊ป 2 เพลย์ออฟ ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติลัตเวีย ณ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมี มิสเตอร์ อเดล บอร์เก ผู้ตัดสินชี้ขาดจากสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) ชาวอิหร่าน เป็นผู้ดำเนินการในพิธี
ผลของการจับสลาก มีรายละเอียด ดังนี้
- วันที่ 4 มีนาคม 2565 รายการแข่งขันประเภทเดี่ยวสลับมือ ประเดิมสนามด้วยคู่แรก เป็นการพบกัน ระหว่าง กษิดิศ สำเร็จ “บูม” วัย 21 ปี (สถิติอันดับโลก ประเภทเดี่ยว 1,302 และประเภทคู่ 1,981) พบกับ โรเบิร์ตส์ สตรอมบาห์ส วัย 22 ปี (สถิติอันดับโลก ประเภทเดี่ยว 742 และประเภทคู่ 613) ในส่วนของคู่ที่สอง เป็นการพบกันระหว่าง เออร์เนสต์ส กูลบิส มือหนึ่งลัตเวีย วัย 33 ปี (สถิติอันดับโลก ประเภทเดี่ยว 324 และประเภทคู่ 781)พบกับ “สอง” ยุทธนา เจริญผล วัย 21 ปี
- วันที่ 5 มีนาคม 21565 รายการแข่งขันประเภทคู่ เป็นการพบกัน ระหว่าง ฐานทัพ สุขสำราญ “แซค” วัย 20 ปี ได้จับคู่กับ ปรัชญา อิสโร “ณัฐ” วัย 26 ปี จะลงสนามแข่งขันพบกับ เออร์เนสต์ส กูลบิส ที่ได้จับคู่กับ โรเบิร์ตส์ สตรอมบาห์ส ต่อด้วยการแข่งขันประเภทเดี่ยวชนมือ อีก 2 คู่ กษิดิศ สำเร็จ พบกับ เออร์เนสต์ส กูลบิส และคู่สุดท้าย ยุทธนา เจริญผล พบกับ โรเบิร์ตส์ สตรอมบาห์ส
การแข่งขันในศึกเดวิสคัพรายการดังกล่าว เป็นการแข่งขันแบบระบบชนะ 2 ใน 3 เซต โดยรวมทั้งหมด 5 คู่ ซึ่งทีมที่สามารถคว้าชัยชนะได้ในเวิลด์กรุ๊ป 2 เพลย์ออฟ ครั้งนี้ จะได้สิทธิ์ในการแข่งขันให้อยู่ในกลุ่มเวิลด์กรุ๊ป 2 ต่อไป ส่วนทีมใดที่เป็นทีมที่แพ้จะต้องเข้าไปแข่งกรุ๊ป 3 ตามโซน โดยที่ในการแข่งขันจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง ทีสปอร์ต 7 ทั้งวันที่ 4 มีนาคม 2565 และ 5 มีนาคม 2565 ครบทุกคู่ ซึ่งเริ่มแข่งขันในคู่แรก เวลา 10.00 น. ของทุกวัน
หลังจากนั้น จะได้มีพิธีการมอบเงินรางวัลให้กับทีมเดวิสคัพไทย โดยนายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม จะมอบเงินส่วนตัวเป็นขวัญกำลังใจให้กับคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในทีมเดวิสคัพชุดนี้ทุกคน เป็นจำนวนทั้งหมด 13 คน โดยมอบให้คนละ 20,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 260,000 บาท นอกจากนี้ นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ยังได้ประกาศด้วยว่า หากในการแข่งขันทีมเดวิสคัพไทยสามารถที่จะเอาชนะทีมลัตเวียได้ ตนจะมอบเงินส่วนตัว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เป็นเงินรางวัลให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทั้งทีม เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1 ล้านบาทอีกด้วย
นายวิเชษฐ์ ทีปกากร ตำแหน่งผู้จัดการทีมเดวิสคัพไทย ได้กล่าวไว้ว่า ขอให้แฟน ๆ กีฬาเทนนิสชาวไทยทุกคนช่วยร่วมกันเป็นกำลังใจเชียร์ทีมชาติไทยในการแข่งขันในศึกเดวิสคัพที่ได้พบกับทีมชาติลัตเวียในครั้งนี้ด้วย โดยนักกีฬาทีมชาติไทยได้ทำการเก็บตัวฝึกซ้อมเป็นระยะเวลามานานพอสมควร และได้ยืนยันอีกว่า ทั้งนักกีฬาและทีมงานทุกคนจะทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ
ภราดร ศรีชาพันธุ์ หรือ “เจ้าบอล” กัปตันทีมเดวิสคัพไทย ได้กล่าวไว้ว่า “นักกีฬาทีมชาติไทยถือได้ว่าเป็นทีมที่มีความพร้อมมากที่สุด และในการแข่งขันทั้ง 2 วัน น้อง ๆ นักกีฬาทุกคนจะทำหน้าที่ในการแข่งขันให้ดีที่สุด เพื่อที่จะเก็บชัยชนะให้ได้ น้อง ๆ ในทีมได้ผ่านการแข่งขันในระดับอาชีพมาแล้ว การลงแข่งเป็นตัวแทนทีมชาติก็ได้เป็นอีกบทบาทหนึ่งที่ น้อง ๆ จะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และที่สำคัญที่สุดเมื่อใดที่นักกีฬาได้มีธงไตรรงค์ติดอยู่ที่หน้าอก ในการแข่งขันนักกีฬาจะรู้สึกว่าเหมือนมีพลังพิเศษทุกครั้ง”
“และต้องบอกว่าทีมลัตเวียชุดนี้ ด้วยอันดับการแข่งขันในระดับโลกถือว่าพวกเขาได้เป็นต่อเรา ถึงแม้ว่าด้วยอันดับแรงกิ้งเราได้ตกเป็นรองเขา แต่ในการลงสนามแข่งขันเดวิสคัพในทุกครั้งก็จะมีกำลังใจ มีพลังใจสำคัญ และในความที่เรานั้นเป็นเจ้าบ้าน รวมทั้งได้มีความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่ได้มีมากกว่า ซึ่งเราจะสามารถใช้เป็นข้อได้เปรียบ และจะสามารถสู้ได้เต็มที่แม้ว่าเราจะเป็นมือรอง”
ส่วนของเรื่องการเปลี่ยนชื่อนักกีฬาที่ลงสนามแข่งขันที่ไม่มีชื่อของ วิชยา ตรงเจริญชัยกุล “จูเนียร์” นักกีฬามือหนึ่งของทีมชาติไทยนั้น ภราดร ได้กล่าวไว้ว่า ได้เป็นเรื่องการวางกลยุทธ์ของทีมในการแข่งขันวันแรก เรานั้นจะพยายามที่จะเก็บแต้มแรกให้ได้ เพราะหากดูจากอันดับโลกแล้ว ถ้าจะให้ บูม กษิดิศ สำเร็จ ได้ไปชนกับนักกีฬามือหนึ่งของลัตเวียเลย โอกาสที่จะชนะนั้นมีแค่ 50-50 ทางทีมก็เลยคิดว่าต้องวางแผนในทีมด้วยกันเพื่อให้การเก็บแต้มจากการแข่งขันวันแรกให้ได้ และถ้าหากในวันแรกสกอร์ออกมา 1-1 คู่ การแข่งขันวันที่สองก็ถือว่าเป็นโอกาสของทีมเราได้เหมือนกัน
นักกีฬาอย่าง บูม กษิดิศ สำเร็จ ได้กล่าวไว้ว่า “ภายในทีมได้มีการพูดคุยและได้วางแผนกัน โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้สึกว่ามีความกดดันในการลงแข่งขันเป็นคนแรก ซึ่งการที่เราได้แข่งขันในบ้าน เราก็มีความรู้สึกมั่นใจกว่าการที่ไปเล่นนอกบ้าน ซึ่งจะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ และสำหรับคู่แข่งจากทีมลัตเวียตนก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่โดยส่วนตัวได้มีความมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ และอย่างไรก็ตาม ตนนั้นไม่ได้รู้สึกคาดหวังกับผลการแข่งขันมากนัก แต่ก็จะพยายามที่จะทำให้ตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีที่สุดในการแข่งขันให้ได้”
ในขณะที่นักกีฬาจากลัตเวีย เออร์เนสต์ กูลบิส ได้กล่าวไว้ว่า “ความคาดหวังในการแข่งขันครั้งนี้ของทีมลัตเวีย แน่นอนว่าทางทีมต้องการที่จะคว้าชัยชนะให้ได้ และเมื่อได้ดูจากแรงกิ้งแล้วตนนั้นได้คิดว่าทีมมีโอกาสที่ชนะได้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าสภาพอากาศของประเทศไทยจะแตกต่างจากสภาพอากาศที่ยุโรป แต่ทีมลัตเวียร์ก็จะพยายามทำผลงานเพื่อเก็บชัยเหนือทีมชาติไทยให้ได้อย่างเต็มที่”